ปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านอยู่ให้เลือกใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน ทำให้มีทางเลือกเพิ่มจากเดิมมากยิ่งขึ้น เพราะการจะสร้างบ้านสักหลังนั้น นับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว เวลาที่คิดจะสร้างบ้านก็ต้องมานั่งกลัวนั่นกังวลนี่กันไปหมด เมื่อใดที่ขาดความรู้ความเข้าใจและไม่ระมัดระวังแล้ว ก็อาจจะได้บ้านที่ด้อยคุณภาพจนทำให้นอนผวาทุกคืน วันนี้ขออนุญาตแนะนำในเรื่องการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อให้บ้านออกมาดูดี ตรงตามความต้องการ โดยมีหลักการคัดเลือกดังนี้
1. ให้คุณดูประวัติและผลงาน
เจ้าของบ้านต้องค้นหาและคัดเลือกบริษัท รับสร้างบ้าน ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยการตรวจสอบประวัติ เช่น ค้นหาชื่อบริษัทที่สนใจจากในอินเตอร์เน็ตก่อน หรือจะปรึกษากับลูกค้าที่เคยใช้บริการผ่านมาแล้ว เพื่อดูว่าที่ผ่านมาผลงานของบริษัทต่าง ๆ นั้นเป็นอย่างไร บริษัทที่น่าเชื่อถือควรจะมีผลงานที่สามารถเปิดเผยและตรวจสอบได้ อาจจะเป็นการพาไปดูสถานที่จริง หรือเยี่ยมชมผลงานที่ผ่านมา แล้วจึงรวบรวมทั้งข้อดีและข้อเสียของแต่ละบริษัท เอามาเปรียบเทียบกันถึงข้อดีข้อด้อย แล้วเลือกใช้บริการบริษัทที่คิดว่าดีที่สุด
2. มีที่ตั้งบริษัทเป็นหลักแหล่ง
การมีอยู่จริงของบริษัทที่จะช่วยยืนยันตัวตนได้คือ การมีสำนักงานหรือที่ตั้งที่แน่นอน และควรมีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายด้วย เผื่อว่าในกรณ๊ที่มีปัญหาเกิดขึ้น ก็จะทำให้สามารรถเข้าไปพูดคุย หรือติดต่อกันได้อย่างสะดวก และอาจเข้าไปเยี่ยมชมสำนักงาน เพื่อสังเกตความพร้อมในการให้บริการอีกทางหนึ่ง
3. มีแบบบ้านให้เลือกได้หลากหลาย
โดยบริษัท รับสร้างบ้าน ชั้นนำจะมีแบบบ้านหลากหลายแบบให้เลือก และยังสามารถยืดหยุ่น ดัดแปลง เพื่อสนองความต้องการอันเฉพาะของลูกค้าได้ด้วย ทั้งนี้ต้องให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ลูกค้ามี และสามารถนำเสนอแบบบ้านที่ใกล้เคียงตามความต้องการของลูกค้า บริษัทรับสร้างบ้าน ที่เป็นมืออาชีพนั้น ต้องมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับงานสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงหลังสร้างบ้านเสร็จแล้วอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างนั้นเป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ มีคุณภาพดังที่ลูกค้าต้องการ รวมทั้งยังทำให้เจ้าของบ้านได้รู้ข้อมูลการก่อสร้างบ้านเป็นอย่างดี อีกทั้งเขาต้องรับฟังและตอบสนองความต้องการ ด้วยการออกแบบบ้านที่ตรงใจ และยังให้ความปลอดภัยแก่ลูกค้าได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เจ้าของบ้านเชื่อและไว้วางใจ
4. มีทีมงานมืออาชีพ
สิ่งนี้จัดว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่สำคัญ ที่คุณต้องพิจารณาคัดเลือกบริษัทรับสร้างบ้านเป็นพิเศษ ต้องดูว่าภายในบริษัทนั้นมีทีมงานมืออาชีพประจำองค์กรอยู่ เช่น สถาปนิก วิศวกร และทีมงานก่อสร้างจะต้องมีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ที่คอยให้คำปรึกษาได้ ไม่ว่าจะเป็นการ ออกแบบ ประสานงานและควบคุมการก่อสร้าง ดูแลลูกค้าและพร้อมบริการได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และถูกต้อง
5.มีการทำสัญญาถูกต้อง
การที่ต่างฝ่ายจะได้รับตามข้อตกลง จำเป็นต้องมีการทำสัญญาก่อสร้างบ้าน เพราะนั่นเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่จะได้รับ เจ้าของบ้านควรเลือกทำสัญญาแบบที่เกลี่ยค่าใช้จ่ายเป็นงวด ๆ ตลอดโครงการ หรือมียอดจ่ายก้อนใหญ่ในช่วงท้ายของงานการสร้าง เพื่อเป็นหลักประกันว่าทางบริษัทจะไม่ทิ้งงานระหว่างก่อสร้าง อีกทั้งความตรงต่อเวลาตามสัญญา บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ จะแสดงขั้นตอนการก่อสร้างตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และแบ่งระยะงานเป็นงวด ๆ ทำให้ตรวจสอบได้ง่าย จึงทำให้รู้ว่างานงวดไหนจะมีส่วนไหนแล้วเสร็จเมื่อไร โดยการวางแผนการก่อสร้างไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้สามารถควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามกำหนดได้ ไม่กระทบต่อการทำงานของบริษัททั้งระบบ และไม่กระทบต่อการวางแผนเข้าอยู่ของเจ้าของบ้านด้วย
6. ใบเสนอราคามีความชัดเจน
บริษัท Plus Builders ที่เป็นมืออาชีพสามารถทำใบเสนอราคาก่อสร้างที่ชัดเจน เพื่อให้คุณทราบงบประมาณการก่อสร้างทั้งหมด ซึ่งอาจรวมถึงรายละเอียด โดยดูทั้งรายการงานที่เกิดขึ้น การบริการ การรับประกันคุณภาพ และมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง โดยงานเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการทำงานของบริษัทรับสร้างบ้านได้
7.บริการหลังการขาย
บริษัทรับสร้างบ้านที่ดีและมีความเป็นมืออาชีพ จะต้องมีการให้บริการดูแล รักษา หรือซ่อมบำรุงหากตรวจสอบพบข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของงานก่อสร้างที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง โดยจะต้องมีทีมงานเข้าไปแก้ปัญหาให้ มีการรับประกันคุณภาพ โดยจะต้องมีทั้งในส่วนของการรับประกันงานก่อสร้าง และงานโครงสร้างของบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคนั้นเกิดความมั่นใจ
8. ต้องมีชื่อเสียงที่ดี
บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีชื่อเสียงที่เป็นมืออาชีพ จะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค และจากผู้ใช้บริการจนเป็นที่ยอมรับ เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีผลงานการสร้างมาแล้วทั่วประเทศ หรือมีความโดดเด่นในด้านการออกแบบที่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีเทคนิควิธีการก่อสร้างที่ดี และได้มาตรฐานการก่อสร้าง อาจจะเป็นบริษัทที่ให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด เป็นต้น
การสร้างบ้านหนึ่งหลัง ถือว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจหมายถึงเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต ดังนั้น การตัดสินใจเลือกใช้บริการบริษัท รับสร้างบ้าน จึงต้องพิจารณากันอย่างละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบมากที่สุด เพื่อให้ได้บ้านที่ถูกใจ ตรงตามงบประมาณที่ได้ตั้งไว้ และที่สำคัญไม่ทิ้งงานให้เจ้าของบ้านได้ปวดใจ.